ปปช.ชี้มูล “นายอำเภอหาดใหญ่” ผิด ม.157-วินัยร้ายแรง ใช้รถหลวง-อส.ช่วยสร้างบ้าน
๐ กระบวนการยุติธรรม - ปปช.ชี้มูลความผิด 3 ข้อหานายอำเภอหาดใหญ่ฐานนำรถของอำเภอหนองจิก จ.ปัตตานี ไปใช้ในการสร้างบ้านพักส่วนตัว พร้อมเบิกเงินน้ำมันจากทางราชการ ซ้ำยังสั่ง อส.หนองจิกไปช่วยสร้างบ้าน ส่งเรื่องต่อไปยัง อสส.-ผู้บังคับบัญชา พร้อมให้ชดใช้ค่าเสียหาย
28 ตุลาคม 2567 - นายเกียรติศักดิ์ พุฒพันธุ์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 9 นำทีมเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดใน 6 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ ยะลา ปัตตานี สงขลา ตรัง พัทลุงและสตูล แถลงผลการดำเนินงานของสำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 9 และสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดในเขตพื้นที่ภาค 9 ณ โรงแรมหรรษาเจบี อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ในส่วนของ จ.ปัตตานี คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเอกฉันท์ 7 เสียงชี้มูลความผิดนายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอหาดใหญ่ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายอำเภอหนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อปี 2561 ในมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172
และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 85 (1)
ในข้อกล่าวหาสั่งใช้ให้เจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน (อส.) ในสังกัดกองร้อย อส.อำเภอหนองจิกที่ 10 ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ใช้รถยนต์ของทางราชการ ซึ่งเป็นรถที่ใช้ในภารกิจราชการของ อ.หนองจิก บรรทุกวัสดุ อุปกรณ์ เพื่อนำไปใช้ในการสร้างบ้านพักส่วนตัวของตน ในเขตพื้นที่ อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา โดยได้มีการเบิกจ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงของรถคันดังกล่าวจากทางราชการด้วย และสั่งการให้เจ้าหน้าที่ อส.ส่วนหนึ่งไปทำการก่อสร้างบ้านพักส่วนตัวหลังดังกล่าวโดยมิชอบ ซึ่งเป็นการสั่งใช้นอกเขตพื้นที่ นอกเขตจังหวัดปัตตานี อีกทั้งในการเดินทางไปยังสถานที่ก่อสร้างอาคารบ้านพักดังกล่าว ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2561 ถึงเดือนมีนาคม 2562
“แม้ว่ารถยนต์ดังกล่าวจะไม่ได้จัดซื้อโดยงบประมาณของอำเภอหนองจิก และไม่ได้อยู่ในทะเบียนครุภัณฑ์ของอำเภอหนองจิก แต่เป็นรถยนต์ที่ชุดคุ้มครองหมู่บ้าน ต.ปุโละปุโย อ.หนองจิก มอบให้อำเภอหนองจิก โดยมีเจตนาเพื่อใช้ในภารกิจของราชการอำเภอหนองจิก จึงถือว่าอำเภอหนองจิกเป็นผู้ครอบครองรถยนต์คันดังกล่าวโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในประโยชน์ของทางราชการ การที่นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา ผู้ถูกกล่าวหา สั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไปก่อสร้างบ้านพักส่วนตัว อันเป็นการปฏิบัติงานนอกหน้าที่และอำนาจเพื่อประโยชน์ของตนเอง อีกทั้งยังนำรถยนต์คันดังกล่าวไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตน จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่อำเภอหนองจิก”
ในข้อกล่าวหาสั่งใช้ให้เจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน (อส.) ในสังกัดกองร้อย อส.อำเภอหนองจิกที่ 10 ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ใช้รถยนต์ของทางราชการ ซึ่งเป็นรถที่ใช้ในภารกิจราชการของ อ.หนองจิก บรรทุกวัสดุ อุปกรณ์ เพื่อนำไปใช้ในการสร้างบ้านพักส่วนตัวของตน ในเขตพื้นที่ อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา โดยได้มีการเบิกจ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงของรถคันดังกล่าวจากทางราชการด้วย และสั่งการให้เจ้าหน้าที่ อส.ส่วนหนึ่งไปทำการก่อสร้างบ้านพักส่วนตัวหลังดังกล่าวโดยมิชอบ ซึ่งเป็นการสั่งใช้นอกเขตพื้นที่ นอกเขตจังหวัดปัตตานี อีกทั้งในการเดินทางไปยังสถานที่ก่อสร้างอาคารบ้านพักดังกล่าว ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2561 ถึงเดือนมีนาคม 2562
“แม้ว่ารถยนต์ดังกล่าวจะไม่ได้จัดซื้อโดยงบประมาณของอำเภอหนองจิก และไม่ได้อยู่ในทะเบียนครุภัณฑ์ของอำเภอหนองจิก แต่เป็นรถยนต์ที่ชุดคุ้มครองหมู่บ้าน ต.ปุโละปุโย อ.หนองจิก มอบให้อำเภอหนองจิก โดยมีเจตนาเพื่อใช้ในภารกิจของราชการอำเภอหนองจิก จึงถือว่าอำเภอหนองจิกเป็นผู้ครอบครองรถยนต์คันดังกล่าวโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในประโยชน์ของทางราชการ การที่นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา ผู้ถูกกล่าวหา สั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไปก่อสร้างบ้านพักส่วนตัว อันเป็นการปฏิบัติงานนอกหน้าที่และอำนาจเพื่อประโยชน์ของตนเอง อีกทั้งยังนำรถยนต์คันดังกล่าวไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตน จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่อำเภอหนองจิก”
คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี และให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อดำเนินการทางวินัยกับนายเอก ยังอภัย ณ สงขลา ตามฐานความผิดดังกล่าว ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (1) และ (2) และมาตรา 98 ต่อไป
ทั้งนี้ ให้แจ้งอำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหายต่อไป ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 82 วรรคสอง
//////////////////////////////
ไม่มีความคิดเห็น: