ชายแดนใต้

[๐ ชายแดนใต้][bleft]

รายงานพิเศษ

[๐ รายงานพิเศษ][bsummary]

อุบัติเหตุ

[๐ อุบัติเหตุ][twocolumns]

บทความ

[๐ บทความ][bsummary]

แม่ทัพภาค 4 ร่วมกิจกรรมสานสัมพันธ์ให้เดือนรอมฎอนเกิดสันติสุขอย่างแท้จริง

 


ชายแดนภาคใต้: สานสัมพันธ์เครือข่ายสานใจสู่สันติ ต้อนรับเดือนรอมฎอน ประจำปี ฮิจเราะห์ศักราช 1443 กำหนดมัสยิดสานใจสู่สันติ แสดงความศรัทธาละเว้นความชั่ว ยินดีในความดี ให้เดือนรอมฎอนเป็นเดือนสันติสุขอย่างแท้จริง


29 มีนาคม 2565 - ที่กองสานใจสู่สันติ ศูนย์สันติวิธี บ้านควนดิน ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมด้วย พลโทธิรา แดหวา แม่ทัพน้อยที่ 4 /รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า/ผู้อำนวยการศูนย์สันติวิธี กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เดินทางร่วมกิจกรรม พบปะสานสัมพันธ์เครือข่ายสานใจสู่สันติต้อนรับเดือนรอมฎอน ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1443 ภายใต้บริบท "นักรบ พบรัก กลับบ้าน ร่วมกันสร้างสันติสุข" เพื่อให้เดือนรอมฎอนเป็นเดือนสันติสุขอย่างแท้จริง โดยมีผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นหนึ่งในขบวนการขับเคลื่อน และร่วมกิจกรรมนำผู้หลงผิดกลับเข้าสู่กระบวนการของโครงการสานใจสู่สันติสู่เดือนรอมฎอน ภายใต้ มัสยิดสานใจสู่สันติ

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลามในทุกปีต้องปฏิบัติศาสนกิจในเดือนรอมฎอน หรือเดือนถือศีลอดตามหลักของศาสนาอิสลาม ซึ่งเป็นเดือนที่ 9 ตามปฏิทินทางจันทรคติของอิสลาม กำหนดให้ชาวมุสลิมทุกคนต้องถือศีลอด ทั้งนี้ในปีพุทธศักราช 2565 ตรงกับปีฮิจเราะห์ศักราช 1443 การถือศีลอดของพี่น้องมุสลิมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ถือเป็นบุญใหญ่แห่งปีซึ่งมักจะมีกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงอาศัยเงื่อนไขทางประวัติศาสตร์เชิงบาดแผล ความเป็นอัตลักษณ์ เชื้อชาติ ศาสนา และมาตุภูมิ ใช้โอกาสในช่วงเดือนแห่งศรัทธาปฏิบัติการข่าวสารในการโฆษณาชวนเชื่อ และปลุกระดมให้สมาชิกแนวร่วมเข้าใจว่าการก่อเหตุในห้วงดังกล่าวจะได้บุญมากเป็นพิเศษ

พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้มีนโยบายในการขับเคลื่อนโครงการ เพื่อสร้างสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสม และเอื้อต่อการพูดคุยในการแสวงหาทางออกจากความขัดแย้ง รวมถึงการให้หลักประกันในการเข้ามามีส่วนร่วมของผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในกระบวนการเสริมสร้างสันติสุข การแก้ไขปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงกำหนดเป็นโครงการสานใจสู่สันติเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ รายงานตัวเข้าโครงการต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม เดินทางกลับมาอาศัยอยู่ในภูมิลำเนาอย่างปกติสุข โดยเฉพาะในห้วงของเดือนรอมฎอน ที่ถือเป็นเดือนอันประเสริฐ ละเว้นการกระทำความชั่วทั้งปวง และเป็นเดือนที่ทุกคนจะได้แสดงออกถึงความภักดีความเชื่อมั่น และศรัทธาต่อองค์อัลเลาะห์ ประกอบศาสนกิจได้อย่างมีความสุข

พลโท ธิรา แดหวา ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์สันติวิธีกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า "ถือเป็นโอกาสอันดีที่วันนี้เราได้มาพบปะพูดคุยกัน ทั้งหมดที่มาในวันนี้ ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาเราต่างมี ข้อคิดเห็นที่อาจจะแตกต่างกันไปบ้าง มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ในวันนี้ เราพร้อมที่จะเปิดใจคุยกัน ทำอย่างไรให้ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เกิดสันติสุขด้วยน้ำมือของคนในพื้นที่โดยเร็ว ขณะที่รอมฎอนปีนี้เราจะทำอย่างไรให้เกิดแต่สิ่งที่ดีปราศจากเหตุร้าย ผ่านพ้นเดือนอันบริสุทธิ์ และประเสริฐไปได้อย่างเป็นรูปธรรม ด้วยสันติวิธี ซึ่งเราเปิดพื้นที่ในเดือนรอมฎอนตลอดทั้งเดือนสำหรับผู้ที่เห็นต่างต่อสู้กับรัฐ ในการจะทบทวนตนเอง กลับเข้าสู่พื้นที่ที่ถูกที่ควร หมดความระแวดระวังต่อกัน ใช้ชีวิตปกติท่ามกลางความไว้วางใจ ภายใต้การประสานของผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น ผู้นำศาสนา สมาชิกชมรมสานใจสู่สันติ สมาชิกของศูนย์ประชาชนพันธุ์ดี ที่มาในวันนี้ แล้วสันติสุขจะเกิดขึ้นได้ด้วยมือเรา เพราะวันนี้เราเจอทางออกแล้ว"

ด้านแม่ทัพภาคที่ 4 พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ ยืนยันไม่บังคับใช้กฎหมายในเดือนรอมฎอน หากไม่มีบุคคลเข้ามาก่อเหตุและใช้ความรุนแรงในพื้นที่ ทั้งนี้ยังเล็งเห็นความสำคัญในการประกอบศาสนกิจของพี่น้องไทยมุสลิมในห้วงเดือนรอมฎอน และพร้อมจะตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนที่ไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรงในพื้นที่ สอดรับกับกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุข ที่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงหรือผู้เห็นต่างจากรัฐเห็นด้วยในประเด็นการลดเหตุความรุนแรง ซึ่งแน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนคาดหวังจะให้มันเกิดขึ้นในเดือนรอมฎอน และตลอดไป

"อย่างที่ทราบดีกันอยู่แล้วว่า เรายินดีทำให้พี่น้องประชาชนประกอบศาสนกิจได้อย่างมีความสุขโดยกำหนดมัสยิดสานใจสู่สันติรองรับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงหรือผู้ที่เห็นต่างได้กลับมาประกอบศาสนกิจอย่างเต็มรูปแบบ กระตุ้นให้มีความยินดีที่จะสลัดความชั่ว ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตนเองให้ดียิ่งขึ้นด้วยใจที่มุ่งมั่นไม่หวั่นไหว ปราศจากวิธีรุนแรง เรามีพื้นที่เปิดรับเพื่อพูดคุยสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลามที่บริสุทธิ์ ผ่านกลไกของผู้ประสานงานในระดับพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา เพื่อให้เดือนรอมฎอน เป็นเดือนแห่งความบริสุทธิ์ปราศจากเหตุรุนแรงอย่างแท้จริง"


ทั้งนี้ในกิจกรรมสานสัมพันธ์สมาชิกเครือข่ายเพื่อต้อนรับเดือนรอมฎอน แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วยพลโทธิรา แดหวา ได้มอบสิ่งของที่จำเป็น ได้แก่ อินทผาลัม ไก่กระดูกดำแช่แข็ง ซึ่งเป็นผลผลิตจากสมาชิกศูนย์ประชาชนพันธุ์ดี ให้กับผู้แทนเครือข่าย ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา เพื่อใช้ประโยชน์ในช่วงเดือนรอมฎอนต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น: