ชายแดนใต้

[๐ ชายแดนใต้][bleft]

รายงานพิเศษ

[๐ รายงานพิเศษ][bsummary]

อุบัติเหตุ

[๐ อุบัติเหตุ][twocolumns]

บทความ

[๐ บทความ][bsummary]

พรรคประชาชาติหนุน “ก้าวไกล” ตั้งรัฐบาล ขอชูนโยบายดับไฟใต้ให้เกิดสันติภาพ-สันติสุขอย่างยั่งยืน








พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ เปิดเผยว่า ต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้เลือกพรรคประชาชาติ และขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกท่านที่ผดุงระบอบประชาธิปไตยไว้ ในส่วนของพรรคประชาชาติ เราส่งผู้สมัครแค่ 19 เขต แต่ถูกตัดสิทธิ์ไป 4 เขต เหลือ 15 เขต และใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เราหวังไว้ประมาณนี้ จะมากกว่านี้หน่อย เนื่องจากว่าเราได้รับการตอบรับดี แต่การเลือกตั้งก็ไม่มีใครได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็ขอขอบคุณ ซึ่งในคราวหน้าเราก็คงจะต้องทำความเข้าใจกับประชาชนให้มากกว่านี้

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า โดยรวมๆ ก็ถือว่า เป็นพรรคการเมืองหนึ่งที่มีพัฒนาที่ดีขึ้นจากการเลือกตั้งคราวที่แล้วที่ได้ ส.ส.เขตและบัญชีรายชื่อรวม 7 คน แต่คราวนี้เราได้ 9 คนก็ถือว่าพัฒนาขึ้น โดยเฉพาะภาพรวมของประชาชนทั้งประเทศ คะแนนปาร์ตี้ลิสต์ เราก็ถือว่าอยู่ในประมาณรองจากพรรคประชาธิปัตย์ เพราะพรรคการเมืองใหญ่ๆ บางพรรคถ้าไปได้ปาร์ตี้ลิสต์ก็ได้แค่คนเดียวบ้าง เราก็ถือว่าเป็นพรรคที่ต้องขอบคุณประชาชนทั้งประเทศที่ได้เลือกพรรคเข้ามา



พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า พรรคพยายามจะเสนอนโยบายที่จะแก้ปัญหารากเหง้าของคนทั้งประเทศ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำ ประชาชนไม่มีอำนาจ เราก็พยายามจะสร้างสังคมให้เป็นประชาธิปไตย คืนสิทธิ คืนอำนาจ คืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และความยุติธรรมให้ประชาชน สิ่งหนึ่งก็คือต้องมีนโยบายที่จะทำลักษณะอย่างนี้ได้ก็คือ พยายามจะผลักดันให้ประเทศเป็นรัฐสวัสดิการให้มากขึ้น สร้างความผาสุกและความมั่นคงให้แก่ประชาชน ต้องพยายามให้คำนิยามความมั่นคงของรัฐกับความผาสุกของราษฎรต้องเป็นเรื่องเดียวกัน ถ้าจะเลือกก็ต้องเอาความมั่นคงของราษฎรหรือประชาชนสำคัญกว่าความมั่นคงของรัฐ ซึ่งในที่นี้คือตัวข้าราชการ รัฐรวมศูนย์

“สำคัญอีกอันหนึ่งคือ รัฐต้องการจะแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เรื้อรังมายาวนาน ในรอบสุดท้ายนี้ก็ 20 ปี ถ้าก่อนหน้านี้ก็นับเป็นร้อยปี เราอยากจะแก้และสร้างสันติภาพที่ยั่งยืนให้เกิดขึ้น นี่คือเป้าประสงค์ และก็อาจจะทำให้พรรคทำงานเชิงเป็นพรรคที่เรียกว่าเคารพในความคิดที่แตกต่างหลากหลาย หรือความแตกต่างหลากหลายเป็นปรากฏการณ์ของสังคมพหุวัฒนธรรม ดังนั้นพรรคจึงเป็นพรรคเชิงพหุวัฒนธรรม” พ.ต.อ.ทวีกล่าว

พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า เรื่องการจัดตั้งรัฐบาล ต้องการให้สังคมเข้าใจว่า กกต.มีเวลา 2 เดือนว่าจะรับรองสมาชิกหรือไม่ ถือว่าเป็นเวลาที่ยาวที่สุด แล้วก็อีกประการหนึ่งหลังจากที่ กกต.รับรองแล้ว ภายใน 5 วันจะต้องจัดให้มีการประชุมสภาฯ โดยก่อนจะมีนายกรัฐมนตรีได้จะต้องมีประธานรัฐสภาก่อน พรรคประชาชาติเคารพในความแตกต่างและเคารพในกระบวนการประชาธิปไตย แต่สิ่งหนึ่งที่เรามุ่งอย่างยิ่งคือ เมื่อเราเคารพในกระบวนการประชาธิปไตยแล้ว เราต้องขจัดความไม่เป็นธรรมหรือการครอบงำต่างๆ ไม่อย่างนั้น พรรคประชาชาติไม่ยืนเป็นพรรคฝ่ายค้านในการเลือกตั้งครั้งแรกที่ผ่านมา อันนี้เราก็แสดงจุดยืนว่า พรรคที่ไปเป็นรัฐบาลครั้งที่แล้ว มี ส.ส.ในภาคใต้ทั้งหมดมีหลายพรรค มีพรรคประชาชาติพรรคเดียวที่เราเป็นพรรคฝ่ายค้าน เพราะเราก็ยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตย

“ครั้งนี้ จุดยืนของพรรคประชาชาติ อย่างที่เรียนไว้ว่า เราเคารพในประชาชน วันนี้ประชาชนได้เลือกพรรคก้าวไกล เป็นอันดับ 1 เราก็เคารพว่าพรรคก้าวไกลควรจะต้องเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล” พ.ต.อ.ทวี กล่าว

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า แต่ก็ยังมีอุปสรรคข้างหน้าก็คือ ส.ว. เพราะว่าถ้ารวมในฝ่ายประชาธิปไตย ชัดเจนถ้าพรรคการเมืองเก่าก็ประมาณ 300 เศษนิดหน่อย แต่ครั้งนี้มี ส.ว. ดังนั้น ต้องให้ได้ 376 เสียง ก็หนีไม่พ้นต้องไปพึ่งพรรคการเมืองอื่น ถ้าจะทำอย่างนี้ อีกอย่างคือต้องไปพึ่ง ส.ว. ต้องยอมรับว่า ส.ว. ส่วนใหญ่นั้น ท่านจะไปในทิศทางเดียวกัน ถ้าในการเลือกไม่เป็นกลาง เพราะเป็นกลาง 100 เปอร์เซ็นต์เป็นไปไม่ได้ มันต้องมีความคิดที่แตกต่าง การเลือกนายกฯ เราก็มีประสบการณ์มาแล้วว่า ส.ว.ไปเลือกนายกฯคนเดิม 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะประธานสภาหรือประธานวุฒิสภาไม่ลงเสียง ถ้าลงเสียงได้ ก็ถือว่า 100 เปอร์เซ็นต์ อันนี้ถือคือจริง ๆแล้วมันเป็นผลประโยชน์ขัดกัน แต่เนื่องจากว่ามันผ่านไปแล้ว เราก็ทำอะไรไม่ได้ แต่ในครั้งนี้ก็เหมือนกัน ขั้นตอนของการเลือกนายกฯ ก็เป็นขั้นตอนหนึ่ง ก็ให้กำลังใจพรรคก้าวไกลที่คิดว่าท่านเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ท่านคงจะฟันฝ่าอุปสรรคอันนี้ได้



พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ส่วนพรรคประชาชาติยินดีจะเป็นคณะทำงาน คือเราอยากเห็นบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น วันนี้ประชาชนต้องการการเปลี่ยนแปลง ถ้าร่วมเราก็จะข้อเสนอนโยบาย อย่างเช่นนโยบายแรกเราต้องสร้างสังคมให้เป็นประชาธิปไตย คืนสิทธิ คืนอำนาจ คืนศักดิ์ศรีให้ประชาชน เราหนีไม่พ้นคงจะต้องมามีประชามติ ซึ่งหลายพรรคการเมืองก็พูดว่ารัฐธรรมนูญที่มีอยู่ในฉบับปัจจุบัน คงต้องถามประชาชนว่า จะทำประชามติว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับหรือไม่ ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วางแนวทาง ถ้าประชาชนเห็นว่า ควรมีจัดทำรัฐธรรมนูญ ทางพรรคประชาชาติก็พูดมาโดยตลอด ซึ่งในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในการทำประชามติรัฐธรรมนูญคราวที่แล้ว เราไม่รับรัฐธรรมนูญ เราก็คงจะให้มีตัวแทนเจ้าของอำนาจไปร่างรัฐธรรมนูญ ก็คือมีการเลือกตั้งคนมาร่างรัฐธรรมนูญ เรียกว่า สภาร่างรัฐธรรมนูญ ให้คณะนี้ไปร่างรัฐธรรมนูญของประชาชนขึ้นมา จะทำให้รัฐธรรมนูญ กติกาของประเทศเป็นที่ยอมรับเป็นที่หวงแหนของประชาชน ไม่เช่นนั้นก็จะมีคนฉีกรัฐธรรมนูญมา ร่างรัฐธรรมนูญคนจะไม่ยอมรับ

ประการที่สอง เราเห็นว่าบ้านเมืองเรามีฐานะความเหลื่อมล้ำมาก ประชาชนยากจนในหลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลใช้วิธีกู้เงินเป็นหลักในการบริหารประเทศ แล้วก็ยังไม่มองประชาชนแบบสิทธิเสมอกันถ้วนหน้า ก็จะพยายามขอร้องพรรคการเมืองต่างๆ เราควรจะผลักดันประเทศในหลายๆ มิติ ตั้งแต่เกิดจนถึงหลุมฝังศพหรือเชิงตะกอนหรือกุโบร์พี่น้องมุสลิม ทำประเทศให้เป็นรัฐสวัสดิการให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นสวัสดิการถ้วนหน้าตามช่วงอายุ ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงอายุ

ประการที่ 3 ที่เรื่องสำคัญคือเราต้องมาสร้างความผาสุกและสร้างความมั่นคงให้กับประชาชน ความมั่นคงของรัฐกับความผาสุกของประชาชนต้องเป็นเรื่องเดียวกัน ถ้าความมั่นคงของรัฐ แต่ประชาชนยังยากจน อันนี้คือเราต้องทลายความคิดที่จะต้องรวมศูนย์อำนาจ ความคิดที่ข้าราชการเป็นใหญ่ ความคิดที่ใช้ความมั่นคงอยู่เหนือการศึกษา อยู่เหนือความยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปฏิรูปที่ดิน วันนี้เราต้องยอมรับว่า คนมีที่ดินเกินพันไร่ มีแค่ 103 คน และ 30 คนมีที่ดินเกือบ 3 ล้านไร่ มันเป็นการกระจุกตัว การจัดสรรทรัพยากรยิ่งแย่ขึ้น พอยิ่งพัฒนาเราหนีไม่พ้นต้องเอาทรัพยากรมาพัฒนา คนรวยก็รวยไม่หยุด แล้วประการสำคัญผมยังคิดว่า ระบบการผูกขาดการให้สัมปทาน แล้วผลักภาระไปให้ประชาชนจะต้องมีการแก้ไข




แล้วประการสุดท้าย พรรคประชาชาติมีจุดเด่นคือเราต้องการแก้ปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เกิดสันติภาพอย่างยั่งยืน สร้างความสันติสุข เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ คนทั้งประเทศต้องมารับผิดชอบด้วย เพราะจะต้องนำภาษีของคนทุกคนมาแก้ปัญหา หลายปี โดยเฉพาะในช่วงสุดท้าย 19 ปี วันที่ 4 ม.ค.2547 เราใช้เงินไปประมาณ 5 แสนล้าน ยังไม่รวมถึงงบปกติที่ในภาคอื่นก็ได้

ปัญหาพวกนี้ เรายังไม่เห็นแสงสว่างในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ เพราะเรื่องคนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผมยังเชื่อมั่นว่าให้คนจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา พรรคประชาชาติก็เป็นหนึ่งที่เป็นตัวแทนของคนจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือนโยบายอย่างนี้ เราขอให้พรรคที่เป็นแกนนำนำไปรวมพิจารณาด้วยครับ



ไม่มีความคิดเห็น: