ชาวนราธิวาสขอบคุณกระทรวงยุติธรรมจับมือสถาบันการเงินจัดงานไกล่เกลี่ยหนี้ หลังน้ำท่วมใหญ่หมุนเงินไม่ทัน
กระบวนการยุติธรรม - รมว.ยุติธรรมเปิดงานไกล่เกลี่ยหนี้สิน ลดทุกข์ให้ชาวบ้านจังวัดชายแดนใต้ ลูกหนี้หลั่งน้ำตาดีใจ หลังทนทุกข์น้ำท่วมบ้านท่วมรถ ไม่มีเงินจ่ายค่างวด เพราะต้องซ่อมแซมความเสียหาย
20 มกราคม 2567 - ที่ห้องประชุมโรงแรมอิมพีเรียล อ.เมือง จ.นราธิวาส พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พร้อมคณะ เช่น นายกูเฮง ยาวอหะซัน เลขาฯ รมว.ยุติธรรม นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ โฆษกพรรคประชาชาติ และนายธนาวิทย์ ไชยานุพงศ์ อดีตนายกเทศมนตรีนครนราธิวาส คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคประชาชาติ ได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดงานโครงการส่งเสริมและเพิ่มประสิทธิภาพการอำนวยความยุติธรรมด้านการบังคับคดีในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปีงบประมาณ 2567 โดยมีนายเสกสรร สุขแสง อธิบดีกรมบังคับคดี ได้จัดขึ้นร่วมกับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ.และหน่วยงานเครือข่ายสถาบันการเงินต่างๆ รวม 8 แห่ง ซึ่งมีลูกหนี้จำนวน 3,834 ราย ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทุนทรัพย์รวมทั้งสิ้น 692,221,242 บาท ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการจัดขึ้นมาแล้ว 1 ครั้ง ไกล่เกลี่ยสำเร็จกว่า 6,838 เรื่อง ทุนทรัพย์กว่า 125 ล้านบาท
การจัดงานในครั้งนี้นอกจากที่ประชาชนได้รับหนังสือจากเครือข่ายสถาบันการเงินต่างๆ ที่เดินทางมาร่วมงานแล้ว ยังมีประชาชนอีกเป็นจำนวนมากได้ถือโอกาสเดินทางมาปรึกษาหารือ เพื่อปรับลดปัญหาหนี้สิน ก่อนที่จะถูกการบังคับคดี ซึ่งหนี้สินส่วนใหญ่มาจากการกู้ยืมกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. ร้อยละ 60 ส่วนที่เหลือเป็นเรื่องของที่อยู่อาศัย ยานพาหนะ การลงทุนด้านเกษตรกรรม
ทั้งนี้ เมื่อสอบถามส่วนใหญ่พึงพอใจกับงานที่จัดขึ้น อันดับแรกคือมีความสบายใจจากการลดหย่อนการจ่ายเงินค่างวดที่ลดลง ทำให้ผู้ค้ำประกันไม่ต้องมาเดือดร้อนจากการจ่ายหนี้สินแทน ซึ่งประการสำคัญลูกหนี้ส่วนใหญ่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือเป็นความโชคดีที่เครือข่ายสถาบันการเงินต่างๆ เห็นอกเห็นใจที่ต้องประสบปัญหาอุทกภัย จึงได้ลดหย่อนข้อตกลงต่างๆ ที่ลูกหนี้แต่ละรายจ่ายได้ โดยที่ไม่ได้รับความเดือดร้อน
หนึ่งในลูกหนี้ที่เดินทางมาร่วมงานไกล่เกลี่ยหนี้สินในครั้งนี้ เปิดเผยด้วยน้ำตาคลอเบ้าต่อหน้า พ.ต.อ.ทวี รมว.ยุติธรรมว่า ตนติดหนี้บริษัทรถยนต์ 380,000 บาท หลังเกิดน้ำท่วมเกือบมิดรถยนต์ ต้องซ่อมรถยนต์มีค่าใช้จ่ายเยอะ ซึ่งจากสภาพบ้านที่พังเสียหาย ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมเยอะแล้ว และมาโดนกับรถยนต์อีก เราไม่มีจะจ่ายแล้วทนายโทร.มาแจ้งว่า ต้องจ่ายเป็นก้อนแต่เราไม่มีจ่าย พอดีมาเจอโครงการนี้เราคุยกันและตกลงว่าต้องการคืนรถ ซึ่งถ้าคืนรถแล้วไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งเป็นส่วนต่างความเสียหายหรือค่าสึกหรอเลยตัดสินใจคืนรถดีกว่า จะได้เอาเงินไปซ่อมบ้านจากอุทกภัย ซึ่งต้องขอขอบคุณโครงการนี้มาก
ด้าน พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า กรณีผู้ค้ำประกันหนี้ กยศ.ตอนนี้เราปลอดผู้ค้ำประกันแล้ว ซึ่งใครที่เคยค้ำประกันไว้ไม่ต้องมารับภาระค้ำประกัน เนื่องจากมีช่องกฎหมายที่จะต้องให้ผู้ค้ำมารับรู้ แต่ในกระบวนการของกฎหมายจะต้องให้ผู้ค้ำมาแสดงตัวด้วย ซึ่งเท่าที่พบตัวเลขมีอยู่ 2 ล้านกว่าคนทั่วประเทศ ซึ่งผู้ค้ำประกันเปรียบเสมือนลูกหนี้ ถ้าลูกหนี้ไม่จ่ายผู้ค้ำประกันต้องจ่ายแทน โดยต้องถูกยึดทรัพย์สินบังคับคดี ซึ่งครั้งนี้เป็นนวัตกรรมในการแก้หนี้ โดยเฉพาะในเรื่องของการศึกษา ที่จริงเป็นหนี้ที่รัฐเป็นผู้กำหนด แต่ว่ากองทุนนี้เราจะให้เป็นกองทุนใช้สำหรับให้คนรุ่นหลังเป็นหนี้ต้องใช้หนี้ แต่ว่าจะยกเลิกผู้ค้ำประกัน
"สรุปแล้วผู้ค้ำประกันจะได้รับการยกเลิก ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกันอีกต่อไป ไม่มีพันธะว่าจะต้องวิตกกังวล ในกรณีที่ลูกไม่จ่ายเพราะแม่ต้องรับผิดชอบแทน" รมว.ยุติธรรม กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น: