ชายแดนใต้

[๐ ชายแดนใต้][bleft]

รายงานพิเศษ

[๐ รายงานพิเศษ][bsummary]

อุบัติเหตุ

[๐ อุบัติเหตุ][twocolumns]

บทความ

[๐ บทความ][bsummary]

คงจะถึงเวลาที่ไทยต้องมีจุดยืนที่ชัดเจนต่อการ "รุกรบ" ของมหาอำนาจจากความขัดแย้งในทะเลจีนใต้และไต้หวัน





บทความ โดย... เมือง ไม้ขม


สงครามระหว่างรัสเชียกับยูเครน มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและปากท้องของคนไทยและประเทศไทยไม่น้อย ทั้งเรื่องของน้ำมัน”เรื่องของปุ๋ย เรื่องของธัญพืช ที่มีราคาแพง ซึ่งเป็นผลกระทบโดยตรงกับประเทศไทย

แต่..ความขัดแย้งระหว่างจีนกับไต้หวัน ที่มีสหรัฐอเมริกาเข้ามาแสดงอำนาจ ทั้งการสนับสนุนอาวุธและอื่นๆ ให้แก่ไต้หวัน และการเข้ามาแสดงแสนยานุภาพในทะเลจีนใต้ ยิ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย และประเทศในอาเซียน ที่ยิ่งกว่าความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนหลายเท่านัก

การเดินทางมาไต้หวันของ "แนนซี เพโลซี" ประธานสภาผู้แทนของสหรัฐอเมริกา พร้อมลูกชาย เป็นการเพิ่มความ ตึงเครียด ที่มีอยู่แล้ว ระหว่างจีนกับไต้หวัน ให้เกิดความตึงเครียดและร้อนระอุยิ่งขึ้น

และหลังจากนั้น ยังมีคณะ ส.ส.ของสหรัฐอเมริกา ที่เดินทางมาเยือนไต้หวัน ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า สหรัฐอเมริกามีความจงใจ ที่จะก่อสงครามระหว่างจีนกับไต้หวัน และสร้างความขัดแย้งในทะเลจีนใต้



การมาเยือนไต้หวันของ "แนนซี เพโลซี" นอกจากเป็นแผนทางการเมืองของสหรัฐอเมริกา ที่ต้องการเร่งเร้าให้จีนเร่งจัดการกับไต้หวันด้วยกำลังทหารแล้ว ยังส่อว่าจะมีเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวของ "แนนซี เพโลซี" กับครอบครัวอีกด้วย

เพราะบุตรชายของ "แนนซี เพโลซี" คือผู้ลงทุนในอุตสาหกรรมรายใหญ่ในไต้หวัน ที่เกี่ยวกับ ”ชิป” ที่เป็นอุปกรณ์สำคัญทางเทคโลโลยีในนวัตกรรมใหม่ ที่ขณะนี้มีความขาดแคลนในหลายประเทศ ซึ่งเป็นธุรกิจของคนในครอบครัวของ “เพโลซี” ในไต้หวัน ที่ทำรายได้อย่างมหาศาล

การเดินทางมาไต้หวันของ "แนนซี เพโลซี" จึงได้ประโยชน์ทั้งทางการเมืองของสหรัฐอเมริกาและอาจจะได้ประโยชน์ในธุรกิจของครอบครัว เป็นการ “ยิงปืนนัดเดียว ได้นำสองตัว” แต่ได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่คนไต้หวันและประเทศในกลุ่มอาเซียนทั้งหมด

การออกมาซ้อมรบของกองทัพปลดแอกประชาชนของจีน ด้วยการปิดล้อมไต้หวัน และเป็นการจำลองการทำสงครามจริงในการบุกยึดไต้หวัน หากสหรัฐอเมริกายังไม่หยุดให้การสนับสนุนให้ไต้หวันเป็นศัตรูกับจีน



วันนี้ สหรัฐฯ ไม่ได้หยุดเพียงการยั่วยุจีน โดยมี “เพโลซี่” และสมาชิกรัฐสภามาเยือนไต้หวันเท่านั้น แต่สหรัฐอเมริกาได้เตรียมขายอาวุธ ที่ทันสมัย มากด้วยเทคโนโลยีให้ไต้หวันอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ กำลังขอความเห็นชอบจากรัฐสภา เชื่อว่า รัฐสภาจะผ่านความเห็นชอบในเร็วๆ นี้

ปรากฏการณ์ทั้งหมดของสหรัฐอเมริกา ที่มีต่อไต้หวันและจีน ทำให้เห็นชัดว่า นโยบายของ "โจ ไบเดน" เป็นนโยบายที่สร้างความแตกแยกและกระหายสงคราม โดยใช้ "ไต้หวัน" เป็นเหยื่อ เช่นเดียวกันที่สหรัฐอเมริกาใช้ยูเครนเป็นเหยื่อในการเป็น”ตัวแทน” เพื่อทำสงครามกับรัสเซีย

เช่นนี้แล้ว ไทยและและประเทศต่างๆ ในกลุ่มอาเซียน ยังจะหลับใหล ทำตัวเป็น ”ทองไม่รู้ร้อน” ไม่ได้อีกแล้ว เพราะภัยที่คุกคามอาเซียนที่ น่ากลัวที่สุด คือ นโยบายการเป็น ”จ้าวโลก” และเป็นนักเลงโต ซึ่งอาเชียนจะต้องตัดสินใจให้ได้ว่า จะยืนอยู่กับจีนหรือกับสหรัฐอเมริกา

ไม่มีความคิดเห็น: