เอสอีเอเมืองต้นแบบจะนะไม่คืบ! ผ่านมา 3 เดือนยังวางกรอบเวลา-การทำงานไม่ชัดเจน

 



เศรษฐกิจ: สภาพัฒน์ฯ ส่อถอดใจบอกกลางที่ประชุมรับฟังความเห็นวางกรอบ SEA เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต อ.จะนะ จ.สงขลา ว่า "ไม่ได้อยากทำเรื่องแบบนี้" ผ่านไป 3 เดือนหลังมีมติ ครม.งานไม่คืบ ยังวางกรอบเวลาไม่ชัดเจน เอกชนจี้หากต้องทำตาม SEA ก็ต้องบังคับเอกชนในพื้นที่อื่นด้วย


12 ก.พ. 2565 - มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2565 สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ประชุมรับฟังความคิดเห็น เพื่อกำหนดกรอบการจัดทำการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธ์ศาสตร์ (Strategic Environmental Assessment: SEA) โครงการเมืองต้นแบบสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ไปสู่เมืองต้นแบบที่ 4 อ.จะนะ จ.สงขลา เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต ซึ่งเป็นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2564 ที่มอบหมายให้ สศช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ โดยมีนายวิชญายุทธ บุญชิต รองเลขาธิการ สศช. ทำหน้าที่ประธานการประชุม

แหล่งข่าวรายหนึ่ง เปิดเผยว่า บรรยากาศการประชุมเป็นไปอย่างดุเดือดและมีข้อคำถามข้อสงสัยที่ผู้แทน สศช.อภิบายหรือให้คำตอบไม่ได้ได้อย่างชัดเจนเป็นจำนวนมาก รวมทั้ง กรอบการศึกษาที่นำเสนอยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ไม่มีสาระสำคัญที่จะพิจารณา ในขณะที่ระยะเวลาล่วงเข้าสู่เดือนที่ 3 หลัง ครม.มีมติ รวมทั้ง ยังไม่มีความชัดเจนว่า การทำ SEA จะนำไปสู่การได้ข้อยุติเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างประชาชนในพื้นที่ทั้งที่เป็นกลุ่มสนับสนุนและกลุ่มคัดค้าน ได้หรือไม่ สิ่งใดคือการยอมรับของทุกฝ่าย เป็นแนวทางและมาตรการใด กรอบระยะเวลาการทำงานที่กำหนดห้วงเวลาการทำงานไม่ได้อย่างชัดเจน เพียงแต่ให้เหตุผลว่าโครงการพัฒนาที่มีความขัดแย้งมักจะดำเนินการได้ยาก และส่วนใหญ่ที่ผ่านมาจากประสบการณ์ในต่างประเทศ ผลการศึกษาไม่เป็นข้อยุติทุกฝ่าย ซึ่งการดำเนินการที่ไม่มีความชัดเจนก็นำไปสู่การสร้างความเสียหายทั้งกรณีของส่วนราชการ เนื่องจากหลายส่วนราชการปัจจุบันมีการดำเนินการขับเคลื่อนโครงการเมืองต้นแบบฯ อ.จะนะ ไปแล้ว แต่จำเป็นจะต้องชะลอ

แหล่งข่าวรายนี้ ยังกล่าวด้วยว่า การทำงานทั้งหมดตามมติ ครม. โดยเฉพาะการทำงานหลายเรื่อง ขณะนี้อยู่ระหว่างการลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งหากดำเนินการไม่ได้ทันตามปีงบประมาณตกไป รวมถึง การเสียโอกาสของประชาชนที่จำเป็นต้องมีการพัฒนาในพื้นที่สืบเนื่องจากผลกระทบของสถานการณ์โควิด-19 และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศและภูมิภาคใต้ตอนล่าง เช่น รายได้การท่องเที่ยว การค้าขาย ฯลฯ ติดลบ คนตกงานเป็นจำนวนมาก แต่รัฐบาลยังไม่มีความพยายามในการสร้างแหล่งงานใหม่ให้ประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะ จ.สงขลาที่ขาดการทลงทุนขนาดใหญ่ที่เห็นผลเป็นรูปธรรมมากว่า 30 ปีแล้ว

ในขณะที่ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องที่เข้าร่วมลงประชุม ได้แจ้งต่อแหล่งข่าวว่า การลงทุนทั้งหมดในการพัฒนาเป็นเรื่องของเอกชนที่มีความพร้อม เพราะเข้าใจว่ารัฐบาลต้องใช้งบประมาณไปใช้ในการพัฒนาประเทศด้านอื่นๆ อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลเสนอให้มีการทำ SEA และจะใช้บังคับต่อภาคเอกชนให้ต้องดำเนินการตามผลการศึกษานั้น หากดำเนินการในพื้นที่แห่งนี้ ก็ขอให้นำไปใช้ในการพัฒนาการลงทุนของภาคเอกชนรายอื่นนอกพื้นที่ด้วยไม่ให้เกิดการเลือกปฏิบัติ 2 มาตรฐานการทำงาน เพราะการลงทุนงบประมาณและทรัพยากรเป็นของเอกชน รัฐควรจะส่งเสริมให้ภาคเอกชนดำเนินการอย่างเต็มที่ โดยรัฐบังคับวิถีให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากการพัฒนาอย่างเต็มที่และดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด

แหล่งข่าว ระบุว่า ก่อนปิดการประชุม ประธานได้บอกกล่าวกับที่ประชุมว่า สศช.ไม่ได้อยากทำเรื่องแบบนี้ ทั้งที่ในวันรับเรื่องร้องเรียนจากกลุ่มจะนะรักษ์ถิ่น สศช.ถือเป็นหน่วยงานสำคัญและกำลังจะออกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีให้มีการศึกษา SEA ต่อโครงการพัฒนาของรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

กระบวนการยุติธรรม

[๐ กระบวนการยุติธรรม][bleft]

อุบัติเหตุ

[๐ อุบัติเหตุ][twocolumns]

คุณภาพชีวิต

[๐ คุณภาพชีวิต][bsummary]

ชายแดนใต้

[๐ ชายแดนใต้][bleft]

บทความ

[๐ บทความ][bsummary]