กระทรวงการต่างประเทศ-ศอ.บต.เร่งผลักดันความร่วมมือ 9 ด้านกับซาอุดิอาระเบีย

 


ชายแดนภาคใต้: ดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ประชุมผลักดันการทำงานตามกรอบ-แผนความร่วมมือ 9 ด้านกับซาอุดิอาระเบีย ขณะที่ ศอ.บต. เตรียมเปิดเวทีระดมความคิดเห็นเพื่อสร้างโอกาสให้จังหวัดชายแดนภาคใต้


11 กุมภาพันธ์ 2565 - ที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุม กำหนดทิศทางแนวทางการดำเนินการเพื่อส่งเสริมความร่วมมือกับประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยมี พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมทางไกลผ่านจอภาพ

นายดอนกล่าวว่า หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเยือนราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 ซึ่งถือเป็นการเยือนในระดับผู้นำรัฐบาลระหว่าง 2 ประเทศเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี ได้เตรียมฟื้นฟูความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดิอาระเบียให้เข้าสู่ภาวะปกติและแน่นเฟ้นยิ่งขึ้นตามลำดับ ดังนั้น การประชุมครั้งนี้เพื่อผลักดันการดำเนินงานตามกรอบนโยบายและแผนความร่วมมือต่างๆ ทั้งในส่วนของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนทั้ง 9 ด้าน ประกอบด้วย

1.การท่องเที่ยว 2.พลังงาน 3.แรงงาน 4.อาหาร 5.สุขภาพ 6.ความมั่นคง 7.การศึกษาและศาสนา 8.การค้าและการลงทุน และ 9.กีฬา


ด้าน พล.ร.ต.สมเกียรติกล่าวว่า ประชาชนในพื้นที่ต่างแสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลไทยที่ทำให้ความสัมพันธ์กลับมาเป็นปกติตามเดิม เนื่องจากประชากรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งศาสนา ความเชื่อ วิถีชีวิต และอัตลักษณ์ของประชาชนในพื้นที่ จะเป็นกุญแจสำคัญในการเชื่อมโยงประเทศไทยและซาอุดิอาระเบีย โดยเฉพาะในแต่ละปี ประชาชนชาวไทยมุสลิมจะเดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์กว่า 8,000 คน รวมถึงการเดินทางไปประกอบอาชีพเป็นจำนวนมาก แต่ในห้วงที่ผ่านมามีสถานการณ์เกิดขึ้นมากมาย ทำให้ประชาชนต้องเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยกว่า 4,000 คน เนื่องด้วยอัตราการเรียกเก็บภาษีของซาอุดิอาระเบียที่สูงขึ้น

"ศอ.บต. ได้ติดตามให้ความช่วยเหลือในการสนับสนุนการใช้ภาษาไทยแก่บุตรหลานของแรงงานไทยในซาอุดิอาระเบียที่เดินทางกลับมายังมาตุภูมิ เนื่องจากผลกระทบของโรคโควิด-19 กว่า 1,200 ราย ทั้งยังเชื่อว่ากลุ่มคนเหล่านี้ส่วนใหญ่มีความประสงค์ที่จะกลับไปยังประเทศซาอุดิอาระเบียอีกครั้ง" พล.ร.ต.สมเกียรติกล่าว

เลขาธิการ ศอ.บต.กล่าวอีกว่า ศอ.บต.จะดำเนินการพัฒนาทักษะแรงงานไทยให้มีศักยภาพในการทำงานเพิ่มขึ้น นำร่องให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และถือเป็นการสร้างโอกาสที่ดีในการขยายพื้นที่และยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างไทย–ซาอุดิอาระเบีย

ทั้งนี้ ศอ.บต.เตรียมจัดสัมมนา และระดมความคิดเห็นในหัวข้อ "โอกาส ศักยภาพและความท้าทายของจังหวัดชายแดนภาคใต้ และประเทศไทย ภายหลังรัฐบาลเปิดศักราชใหม่ ของความสัมพันธ์ไทย – ซาอุดิอาระเบีย โดยสมบูรณ์” ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 นี้ ที่มหาวิทยาลัยฟาฎอนี ซึ่งจะดำเนินการในรูปแบบระดมความคิดเห็นและจัดทำเป็น Focus Group ร่วมกับส่วนราชการ หน่วยงานภาคเอกชน ผู้แทนภาคประชาสังคม และประชาชาชนในพื้นที่

เพื่อนำข้อคิดเห็นของประชาชนทุกภาคส่วน ร่วมผลักดันและเชื่อมโยงการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างไทย–ซาอุดิอาระเบีย และครอบคลุมในทุกมิติ และเตรียมเสนอต่อกระทรวงการต่างประเทศทราบต่อไป

0 ความคิดเห็น