น้ำมันเถื่อนกลับมาทะลัก 2 ด่านชายแดนไทย-มาเลย์ วันละไม่ต่ำกว่า 1 แสนลิตร

กระบวนการยุติธรรม: น้ำมันเถื่อนกลับมาขนผ่านชายแดนไทย-มาเลย์ ผ่านทางด่านสะเดา ปาดังเบซาร์ทั้งมากับรถหัวลากและรถกระบะดัดแปลง วันละไม่ต่ำกว่า 1 แสนลิตร มือขวาของ”โจ้ ถุงดำ” เป็นผู้เคลียร์เส้นทางรับจ่ายส่วยทั้งหมด

23 ตุลาคม 2565 - หลังจากที่ได้มีการนำเสนอบทความเกี่ยวกับเส้นทางการค้าน้ำมันเถื่อนของ ”เสี่ยยุทธ์” แห่ง จ.สระบุรี ซึ่งถูก เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.สงขลา จับกุมรถบรรทุก 10 ล้อ บรรทุกน้ำมัน 6 คัน ในพื้นที่ อ.ควนเนียง จ.สงขลา ในข้อหาปลอมแปลง หมายเลขทะเบียน ทำให้วงการขนน้ำมันเถื่อน ในพื้นที่จ.สงขลาและสตูลหยุดชะงักไปกว่า 2 สัปดาห์ โดยเจ้าหน้าที่ศุลกากรด่านพรมแดนสะเดาและปาดังเบซาร์อ.สะเดา จ.สงขลา ได้เข้มงวดการเข้า-ออก ของขบวนรถดัดแปลง ที่ใช้ในการขนน้ำมันเถื่อน ที่มีแทงค์ติดตั้งในรถ จำนวน 1,000-2,000 ลิตร

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไปกลับพบว่า ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนทั้งที่เป็นรถบรรทุกหัวลาก ที่วิ่งระหว่างไทย-มาเลเซีย และขบวนรถกระบะดัดแปลง ได้มีการขนน้ำมันเถื่อนจากประเทศมาเลเซีย ผ่านทางด่านศุลกากรสะเดาและด่านศุลกากรปาดังเบซาร์อย่างคึกคักและเป็นล่ำเป็นสัน มีปริมาณวันละไม่ต่ำกว่า 100,000 ลิตร โดย ส่วนหนึ่งถูกบรรทุกในรถพ่วงบรรจุ 30,000 ลิตรวันละ 2 พ่วง โดยส่งขายให้แก่เสี่ย ย. เจ้าของคอกน้ำมันเถื่อนรายใหญ่ในภาคใต้ และส่งขายให้แก่คอกน้ำมันเถื่อน โรงงานอุตสาหกรรมในย่าน ท่าสะอ้าน เขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา และ ปั้มหลอดแก้ว ในพื้นที่ ต.ทุ่งหมอ ต.ปาดังเบซาร์ ต.พังลา ต.ท่าโพธิ์ ต.เขามีเกียรติ และในพื้นที่ อ.คลองหอยโข่ง พื้นที่อื่นๆ ใน จ.สงขลา

แหล่งข่าวในวงการขนน้ำมันเถื่อนอ้างว่า ผู้ที่รับหน้าที่ในการเคลียร์เส้นทางและจ่ายส่วยให้เจ้าหน้าที่ตั้งแต่ศุลกากร ตำรวจ ท่องที่ และตำรวจ ปนม. คือสมุนมือขวาของ “โจ้ ถุงดำ” อดีต ผกก.สภ.เมืองจ.นครสวรรค์ ที่ขณะนี้ถูกควบคุมตัวในเรือนจำ