โค่นยางพารา 35 ไร่ปลูกกระท่อมส่งออกนอกรายได้พุ่งขายได้แล้ว 2.4 แสนบาท






กลุ่มวิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรบ้านควนเนียง หมู่ที่ 2 ต.รัตภูมิ อ.ควนเนียง จ.สงขลา ตัดสินใจโค่นต้นยางพารารวมกลุ่มกว่า 35 ไร่ หันมาปลูกต้นกระท่อมอินทรีย์ 3,000 ต้น พันธุ์ก้านแดงและก้านขาว เพื่อรองรับผลผลิตออกสู่ตลาดโลก

เมื่อไม่นานมานี้ ที่สวนกระท่อมทอง หมู่ที่ 2 ต.รัตภูมิ อ.ควนเนียง จ.สงขลา รองศาสตราจารย์ สมพล มงคลพิทักษ์สุข ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรบ้านควนเนียง ร่วมกับเกษตร สมาชิกกลุ่ม ได้เปิดป้ายสวนกระท่อมทองและนำสื่อมวลชนชมสวนพืชกระท่อมพื้นที่ 35 ไร่ จำนวน 3,000 ต้น หลังจากโค่นต้นยางพาราทิ้ง เนื่องจากราคายางพาราตกต่ำ

มีทั้งพันธุ์ก้านแดงและก้านขาว เนื่องจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ เล็งเห็นความสำคัญพืชสมุนไพรไทยอย่างเช่น พืชกระท่อม ซึ่งมีประโยชน์ทางยามากมายและตลาดมีความต้องการสูงเป็นพืชเศรษฐกิจ




กลุ่มวิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรบ้านควนเนียง 16 คน ปลูกต้นกระท่อมพันธุ์ก้านแดงและก้านขาว แบ่งเป็น 3 แปลง ซึ่งแปลงที่เก็บได้แล้วจำนวน 6 ไร่ 600 ต้น 15 วัน

เก็บได้ประมาณ 600 กิโลกรัมๆ ละ 200 บาท เดือนละประมาณ 240,000 บาท ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ช่วงประมาณต้นเดือนอีก 2 แปลง 29 ไร่จะเริ่มทยอยเก็บ เพราะว่าครบ 9 เดือนแล้ว

อาจารย์ วลัย ธนานุสนธิ์ รองประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรบ้านควนเนียง ได้กล่าวว่า หลังจากนี้ซึ่งเป็นเดือนพฤศจิกายน บริษัทเพชรตะวัน จำกัด จะเป็นลูกค้ารายใหญ่จะมารับซื้อ เพื่อนำส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ อาทิเช่น กลุ่มตะวันออกกลาง อาหรับ และอาเซียน รวมทั้ง จีน เวียดนาม



นับว่าเป็นโอกาสทองที่สร้างรายได้ให้แก่กลุ่มวิสาหกิจเป็นอย่างมาก ทำให้สมาชิกมีรายได้ที่แน่นอน จากยอดขายใบกระท่อม

หากผู้ประกอบการหรือท่านผู้ใดสนใจขอข้อมูลหรือร่วมธุรกิจด้วยกัน ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่รองศาสตราจารย์ สมพล มงคลพิทักษ์สุข เบอร์โทร 081-567-2967 หรือ ผอ.วลัย ธนานุสนธิ์ โทรศัพท์ 084-732-289





0 ความคิดเห็น