สั่งจับตาต่างชาติลงพื้นที่ชายแดนใต้มากขึ้นหลัง “ก้าวไกล” ได้จัดตั้งรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคงเชื่อไม่ปกติ
ชายแดนใต้: หน่วยงานความมั่นคงของทหาร 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้โวย กระทรวงการต่างประเทศไม่แจ้งกำหนดการคณะทูตเยือนพื้นที่ให้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าทราบ แต่กลับแจ้ง ศอ.บต. ที่ไม่ได้มีหน้าที่ด้านความมั่นคง สั่งการหน่วยข่าวติดตามความเคลื่อนไหวขององค์กรต่างชาติ ชี้หลัง “พรรคก้าวไกล” จัดตั้งรัฐบาล พบต่างชาติเข้าพื้นที่มากเป็นพิเศษ เชื่อไม่ปกติ อาจจะมีสิ่งที่แอบแฝงอยู่เบื้องหลัง
25 พฤษภาคม 2566 - มีรายงานจากหน่วยงานความมั่นคงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ได้มีคำสั่งให้หน่วยข่าวจับตามองความเคลื่อนไหวขององค์กรจากชาติตะวันตกหลายประเทศ หลายองค์กร ทั้งที่เข้ามาตั้งสำนักงานปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และที่เดินทางมาพบปะกับกลุ่มภาคประชาสังคมและกลุ่มบุคคลต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งหลายคนเป็นผู้ที่หน่วยงานความมั่นคงติดตามพฤติกรรรม เนื่องจากมีรายงานว่า ฝักใฝ่ขบวนการแบ่งแยกดินแดนในจังหวัดชายแดนภาคใต้
แหล่งข่าวจากหน่วยงานความมั่นคง ระบุว่า การเดินทางลงพื้นที่ของคณะฑูตานุฑูตและตัวแทนขององค์กรต่างๆ จากชาติตะวันตก ไม่มีการประสานแผนหรือแจ้งให้หน่วยงานความมั่นคงในจังหวัดชายแดนภาคใต้แต่อย่างใด มีเพียงการส่งจดหมายขอเข้าพบแม่ทัพ หรือบุคคลต่างๆ ที่ต้องการเข้าพบเพื่อหารือ ซึ่งหน่วยงานความมั่นคงเชื่อว่าเป็นเพียงการเข้าพบเพื่อมารยาท แต่เป้าหมายของพวกเขาคือการพบปะและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นรวมทั้งหาข้อมูลที่ต้องการจจากภาคประชาสังคม และบุคคลที่เป็นฝ่ายตรงข้ามกับหน่วยงานของรัฐ
ที่สำคัญการเดินทางเข้ามาของคณะต่างๆ ไม่มีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงต่างประเทศของไทยมากำกับดูแลตามระเบียบปฏิบัติที่ถูกต้อง มีการปล่อยให้ทุกคณะอย่างอิสระเสรี โดยที่หน่วยงานในพื้นที่ไม่มีโอกาสรู้รายละเอียดของการพูดคุยพบปะ ซึ่งผิดหลักปฏิบัติสำหรับพื้นที่ ซึ่งมีปัญหาด้านความมั่นคง และมีการปฏิบัติการของขบวนการแบ่งแยกดินแดนอย่างจังหวัดชายแดนภาคใต้
ก่อนหน้านี้ การเดินทางลงพื้นที่ของคณะฑูตและองค์กรต่างประเทศ โดยเฉพาะจากชาติตะวันตก กระทรวงการต่างประเทศจะแจ้งให้หน่วยงานความมั่นคงของทหารเป็นผู้รับทราบ เพื่อที่จะได้ตรวจสอบเป้าหมาย และติดตามความเคลื่อนไหวทางการข่าว แต่ปัจจุบัน กระทรวงต่างประเทศได้เปลี่ยนเป็นการแจ้งให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( ศอ.บต.) เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดปกติ เพราะ ศอ.บต.ไม่ได้มีหน้าที่ในเรื่องของความมั่นคง ที่ถูกต้องต้องให้เป็นหน้าที่ของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า
แหล่งข่าวจากหน่วยงานความมั่นคง กล่าวว่า ได้มีการสั่งการให้หน่วยข่าวที่รับผิดชอบติดตามความเคลื่อนไหวขององค์กรต่างชาติทุกคณะ ที่เข้ามาปฏิบัติการในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องติดตาม เพราะหลังจากผ่านการเลือกตั้ง และประเทศไทยจะมีพรรคก้าวไกลเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล พบว่ามีองค์กรต่างชาติเดินทางเข้ามาปฏิบัติการในพื้นที่อย่างมากเป็นพิเศษ และทราบว่ายังจะมีคณะฑูต ที่เป็นตัวแทนของอีกหลายประเทศมีแผนในการเดิอนทางมาพบปะหารือกับองค์กรภาคประชาสังคมและกลุ่มบุคคลใน จ.ปัตตานีเป็นด้านหลัก ซึ่งในทางการข่าว เชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ไม่ปกติ และอาจจะมีสิ่งที่แอบแฝงอยู่เบื้องหลัง
ล่าสุด ในวันที่ 28 พฤษภาคม 2566 นายตีแยรี มาตู เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฝรั่งเศสประจำประเทศไทย จะนำคณะเจ้าหน้าที่ชุดใหญ่เดินทางมา จ.ปัตตานี มีกำหนดการเข้าพบกับตัวแทนภาคประชาสังคมและบุคคลต่างๆ ใน จังหวัดปัตตานีและใกล้เคียง ซึ่งหน่วยงานความมั่นคงตรวจสอบพบว่า บุคคล หลายคน ที่คณะทูตนัดหมายเพื่อหารือ เป็นบุคคลที่อยู่ในรายชื่อที่ฝ่ายความมั่นคงติดตามพฤติกรรม เพราะมีความเคลื่อนไหวที่ไม่สอดคล้องกับนโยบายความมั่นคงของประเทศ
ก่อนหน้านี้ ตัวแทนจากสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยได้เดินทางมาพบปะกับภาคประชาสังคมใน จ.ปัตตานี และในเวลาไล่เลี่ยกัน ก็มีตัวแทนจากสหประชาชาติ ( UN ) ได้ลงพื้นที่ จ.ปัตตานี เพื่อประสานงานโครงการต่างๆ ที่ UN มีโครงการเข้ามาเพื่อช่วยเหลือภาคประชาสังคม ในด้านการพัฒนาอาชีพในพื้นที่ นอกจากนี้ ยังมีตัวแทนทูตจากอีกหลายประเทศ ที่เป็นของชาติตะวันตกเดินทางเข้ามาใน จ.ปัตตานีอย่างคึกคัก โดยมีเป้าหมาย ในการมารับฟังปัญหาของจังหวัดชายแดนภาคใต้ จากภาคประชาสังคม และบุคคลต่างๆ ซึ่งส่วนหนึ่งมีรายงานว่า เป็นปีกทางการเมืองของขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น
นอกจากนี้ ยังปรากฏว่า ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังมีองค์กรต่างชาติที่เข้ามาปักหลัก เปิดสำนักงานอย่างถาวร ในการทำโครงการต่างๆ ร่วมกับภาคประชาสังคม เช่น คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ หรือ ( ICRC ) ซึ่งมีการเปลี่ยนตัวหัวหน้าสำนักงานที่เป็นคนจากประเทศตะวันตกมาเป็นคนเอเชียอย่างนางเซียง ฉวิน หู ซึ่งเป็นชาวจีน เข้ามาในวัฒนธรรมของคนเอเชียอย่างประเทศไทย โดยใช้คำว่า กาชาดในประประสานงานด้านการสร้างมวลชนผ่านนายกเหล่ากาชาดของจังหวัดต่างๆ และยังมีหน่วยงานของ “เจนีวาคอลล์” ซึ่งเป็นองค์กรเอ็นจีโอสากล จากสวิสเซอร์แลนดน์ เดินทาง เข้า-ออก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และประเทศมาเลเซียอยู่ตลอดเวลา
ไม่มีความคิดเห็น: