โวยถูกบังคับให้ร่วมรับผิดคดีขนบุหรี่เถื่อน






กระบวนการยุติธรรม: ผบช.ภ.9 สั่งผู้การ จ.ตรัง สอบข้อเท็จจริงกรณีตำรวจ สภ.สิเกาจับบุหรี่หนีภาษี หนึ่งในผู้ต้องหาโวยไม่ได้เกี่ยวด้วย ขับรถห่างจากรถบรรทุกบุหรี่เถื่อนเกือบ 2 กิโลเมตร กลับถูกจับมาด้วย โดนยึดมือถือ ไม่ยอมให้ติดต่อญาติพี่น้อง-ทนายความ

27 มกราคม 2566 - จากกรณีที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง นำโดย พ.ต.อ. อิศรพงศ์ จินา ผกก. สภ.สิเกา ได้ตั้งด่านจับกุมบุหรี่หลบหนีภาษี เมื่อวันที่ 24 ม.ค. โดยได้ยึดรถกระบะซึ่งมีบุหรี่หลบหนีภาษีอยู่ภายในจำนวนหนึ่ง พร้อมผู้ขับขี่คือนายอับดุลบากี ตามูซอ อายุ 30 ปี มีภูมิลำเนาใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ควบคุมตัวไว้เป็นผู้ต้องหา และมีตำรวจอีกชุดหนึ่งได้สกัดรถเก๋ง ซึ่งมีนายปรัศม์ถกรณ์ อัครมณี อายุ 35 ปี มีภูมิลำเนา ที่ ต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล เป็นคนขับ และนายนทีเทพ แซ่พู่ มีภูมิลำเนาที่ ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา เป็นคนนั่งมาด้วย โดยนำคนทั้ง 2 มายัง สภ.สิเกา พร้อมทั้งแจ้งข้อหาร่วมกับนายอับดุลบากี นำสินค้าซึ่งไม่ได้เสียภาษีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากรนั้น

คลิกอ่านข่าวประกอบ - พ่อค้าบุหรี่เถื่อนโวย! โอนเงินให้ "พ.ต.ท." ทุกเดือน หลังโดนจับกลับไม่ยอมรับสาย

นายปรัศม์ถกรณ์ อัครมณี ได้เข้าร้องกับผู้สื่อข่าวเพื่อขอความเป็นธรรมจากคดีที่เกิดขึ้น โดยกล่าวว่า ในวันที่เกิดเหตุ ตนขับรถคนละคันกับนายอับดุลบากี ห่างกันเกือบ 2 กิโลเมตร ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขนบุหรี่หนีภาษีแต่อย่างใด แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดรถยนต์ของตน โดยใช้ปืน 16 จำนวน 4 กระบอกบังคับให้หยุดรถ และนำตัวมาลงบันทึกประจำวันว่า ตนเป็นผู้ร่วมขบวนการในการค้าบุหรี่หนีภาษี โดยยึดโทรศัพท์มือถือเป็นของกลางและไม่ยอมให้ติดต่อไปยังญาติพี่น้องเพื่อแจ้งให้ทราบว่าตนถูกจับกุมอยู่ที่ สภ.สิเกา ไม่ยอมให้พบทนายความ บันทึกประจำวันที่เขียนว่าตนไม่มีความประสงค์จะติดต่อกับญาติก็ไม่เป็นความจริง มีอย่างที่ไหนที่คนถูกจับจะไม่ติดต่อให้ทางบ้านทราบ



“ข้อเท็จจริงคือผมถูกกักขังหน่วยเหนี่ยวให้ให้ติดต่อกับใครทั้งสิ้นรวม 6 ชั่วโมง หลังเจ้าหน้าที่เป็นผู้บันทึกการจับกุมแล้ว และให้ผมลงนามรับทราบ ผมไม่กล้าขัดขืนเพราะเกรงได้รับอันตราย การตรวจค้นในรถไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายและยาเสพติด แต่ในการตรวจฉี่ปรากฏว่า มีฉี่ม่วง ซึ่งในข้อหานี้ผมยอมรับ แต่ในข้อหาอื่นๆ ผมไม่ยอมรับเพราะไม่ได้มีส่วนในการทำความผิด จึงขอให้ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ได้ให้ความเป็นธรรมกับผมและเพื่อนที่นั่งมาในรถด้วยกัน โดยหลังจากนี้จะให้ทนายเป็นผู้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป” นายปรัศม์ถกรณ์กล่าว

ด้าน พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 กล่าวว่า ได้รับทราบจากการที่สื่อนำเสนอข่าวแล้ว และได้สั่งการให้ ผบก.ภจว. ตรัง สอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมด เพื่อรายงานให้ได้รับทราบต่อไป ถ้าผู้ที่ร้องขอความเป็นธรรมเห็นว่า ถูกกลั่นแกล้ง สร้องขอความเป็นธรรมตามขั้นตอนของกฎหมายได้



0 ความคิดเห็น